วิธีซักถุงเท้าผู้ชายให้หอมกริ๊บ เหม็นแค่ไหนก็เอาอยู่ ไร้กลิ่นอับ ถนอมเส้นใย

WeenayA

1 กรกฎาคม 2568

14.5K

ถุงเท้าเป็นไอเทมใกล้ตัวที่ต้องเผชิญกับความอับชื้นและเหงื่อไคลตลอดวัน ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ง่าย ปัญหาถุงเท้าเหม็นอาจนำไปสู่ปัญหากลิ่นเท้าตามมาได้ หากคุณซักถุงเท้าไม่ถูกวิธี โดยเฉพาะคนที่มีปัญหากลิ่นเท้า การซักถุงเท้าให้สะอาดหมดจดและไร้กลิ่นอับไปพร้อมกับการถนอมเนื้อผ้าไม่ให้ย้วยหรือขาดง่าย อาจไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป TrueID Sport มีเคล็ดลับดีๆ ในการซักถุงเท้าให้หอมสะอาด ปราศจากกลิ่นอับ และยังช่วยยืดอายุการใช้งานถุงเท้าคู่โปรดของคุณให้คงทน ไม่ต้องซื้อบ่อยๆ มาฝากกัน

วิธีซักถุงเท้าผู้ชายให้หอม

วิธีซักถุงเท้าผู้ชายให้หอมกริ๊บ
เหม็นแค่ไหนก็เอาอยู่ ไร้กลิ่นอับ ถนอมเส้นใย

เตรียมตัวถุงเท้าให้ดีก่อนซัก

ก่อนจะลงมือซักถุงเท้า มีขั้นตอนง่ายๆ ที่ทุกคนทำตามได้ทันที เพื่อให้ถุงเท้าของคุณสะอาดหมดจด ไร้กลิ่นอับ และเหมือนใหม่เสมอ

1. สะบัดฝุ่นออกก่อน

ก่อนซักถุงเท้าการเตรียมความพร้อมเป็นสิ่งสำคัญ เริ่มต้นด้วยการสะบัดฝุ่น หรือสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ด้านนอกออกให้ได้มากที่สุดขั้นตอนนี้จะช่วยลดปริมาณฝุ่นผงฟุ้งกระจายภายในบ้าน และช่วยให้การซักมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อสุขอนามัยที่ดีของคุณ

2. แช่ในน้ำยาขจัดกลิ่นเคล็ดลับดับกลิ่นอับและคราบฝังแน่น

ขั้นตอนนี้สำคัญมากการแช่ถุงเท้าในน้ำยาจะช่วยกำจัดกลิ่นอับและทำให้คราบสกปรกหลุดออกง่ายขึ้น โดยคุณสามารถเลือกวิธีที่คุณสะดวกได้

แช่ด้วยเบกกิ้งโซดา

หาน้ำอุ่นใส่ในกะละมังซักผ้า ใส่เบกกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยตวง ต่อน้ำ 1 แกลลอน (ประมาณ 3.8 ลิตร)
แช่ถุงเท้าทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที หรือจะแช่ทิ้งไว้นานหลายชั่วโมงก็ได้ ถ้าถุงเท้าสกปรกมากหรือมีกลิ่นแรงก่อนนำไปซักตามปกติ

แช่ด้วยน้ำส้มสายชูขาว

ผสมน้ำส้มสายชูขาว 1 ส่วน ต่อน้ำเปล่า 3-4 ส่วน ในกะละมังหรืออ่าง
แช่ถุงเท้าไว้ 30 นาที ก่อนนำไปซักตามปกติ

วิธีผสมผสาน (สำหรับถุงเท้าที่กลิ่นแรงมาก)

เริ่มจากแช่ในน้ำส้มสายชูก่อน
จากนั้นล้างน้ำเปล่า แล้วค่อยแช่ต่อด้วยเบกกิ้งโซดาก่อนนำไปซักตามปกติ

วิธีซักถุงเท้าด้วยเครื่องซักผ้า

หลังจากเตรียมถุงเท้าด้วยการแช่น้ำยาไปแล้ว ทีนี้มาดูขั้นตอนการซักด้วยเครื่องซักผ้าที่ทำตามได้ง่ายๆ เพื่อให้ถุงเท้าของคุณสะอาดเอี่ยม และยังใส่ได้นานๆ

1. กลับถุงเท้าด้านในออก

ก่อนโยนเข้าเครื่องซักผ้าให้กลับด้านในของถุงเท้าออกมาข้างนอกก่อนเสมอ เพราะด้านในคือที่สะสมเหงื่อไคลและเซลล์ผิวหนังตายแล้วเยอะที่สุด ช่วยให้ผงซักฟอกและน้ำสามารถเข้าถึงบริเวณที่สกปรกที่สุดได้อย่างเต็มที่ แถมยังช่วยถนอมเส้นใยด้านนอกไม่ให้เสียดสีจนเป็นขุยด้วย

2. แยกผ้าสีขาวกับสี และชนิดผ้า

แยกสี: ถุงเท้าสีขาวต้องแยกซักกับผ้าสีเข้มเสมอ เพื่อป้องกันสีตกใส่กัน
แยกชนิดผ้า: ถ้ามีถุงเท้าหลายแบบ เช่น คอตตอน, ขนสัตว์, ใยสังเคราะห์ ให้แยกซักตามชนิดผ้าด้วย เพราะผ้าแต่ละชนิดอาจต้องการอุณหภูมิและโปรแกรมซักที่ต่างกัน

3. ใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุ่น

น้ำเย็น: การใช้น้ำเย็นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับถุงเท้าเกือบทุกชนิด โดยเฉพาะถุงเท้าที่ทำจากใยสังเคราะห์หรือถุงเท้าที่มีสีสันสดใส น้ำเย็นช่วยรักษาสีผ้าไม่ให้ซีดจาง ป้องกันการหดตัวของเส้นใย และยังช่วยคงความยืดหยุ่นของถุงเท้าไว้ได้ดี
น้ำอุ่น (ประมาณ 30-40°C): เหมาะสำหรับถุงเท้าที่สกปรกมากหรือผ้าคอตตอน หากถุงเท้าของคุณสกปรกมากมีคราบฝังแน่น หรือเป็นถุงเท้าคอตตอนคุณสามารถใช้น้ำอุ่นเล็กน้อย ได้น้ำอุ่นจะช่วยสลายคราบสกปรกและฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ดีขึ้น ทำให้ถุงเท้าสะอาดและถูกสุขอนามัย แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนจัดเด็ดขาด เพราะความร้อนสูงจะทำลายเส้นใยผ้าทำให้ถุงเท้าหดตัวเสียรูปทรง

4. เลือกผงซักฟอกที่ถูกต้อง

ผงซักฟอกอ่อนโยนแบบมีเอนไซม์: ผงซักฟอกชนิดนี้จะช่วยกำจัดคราบโปรตีนและคราบแป้งต่างๆ ได้ดีโดยไม่ทำลายเส้นใยผ้า หลีกเลี่ยงสารเคมีรุนแรง
ผงซักฟอกสูตรต้านแบคทีเรีย หรือสำหรับชุดกีฬา: ถ้าถุงเท้ามีกลิ่นติดแน่นไม่หายสักที ลองใช้ผงซักฟอกที่เน้นฆ่าเชื้อแบคทีเรียต้นเหตุของกลิ่นโดยเฉพาะ

5. เพิ่มตัวช่วยขจัดกลิ่นและคราบในเครื่องซักผ้า

เบกกิ้งโซดา: ใส่เบกกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยตวง ลงไปในถังซักพร้อมกับผงซักฟอกได้ตามปกติ
น้ำส้มสายชูขาว: ใส่น้ำส้มสายชูขาว 1/2 ถ้วยตวง ลงในช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม (หรือใส่ในช่วงน้ำล้างผ้า) น้ำส้มสายชูจะช่วยเป็นน้ำยาปรับผ้านุ่มธรรมชาติ โดยจะล้างคราบผงซักฟอกที่ตกค้างออกไปซึ่งคราบพวกนี้มักจะเก็บกลิ่นไว้

6. ใช้ถุงตาข่ายซักผ้า

ใส่ถุงเท้าลงในถุงตาข่ายซักผ้า จะช่วยป้องกันไม่ให้ถุงเท้าพันกันกับเสื้อผ้าชิ้นอื่น ไม่ให้ถุงเท้าขาดง่าย และไม่ให้หายไปไหนในเครื่องซักผ้าที่สำคัญยังช่วยปกป้องเส้นใยที่บอบบางได้อีกด้วย

7. ตั้งค่าการซักแบบ "ถนอมผ้า"

เลือกโปรแกรมซักแบบ Gentle (ถนอมผ้า) หรือ Delicate (ผ้าบอบบาง) เพื่อลดแรงเหวี่ยงและการเสียดสี ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เส้นใยเสียหายและเป็นขุย ควรตั้งค่าความเร็วในการปั่นแห้งให้ต่ำ

8. หลีกเลี่ยงน้ำยาปรับผ้านุ่ม

น้ำยาปรับผ้านุ่มจะทิ้งสารตกค้างไว้บนเส้นใยผ้า ทำให้เกิดการสะสมของกลิ่นไม่พึงประสงค์ และยังลดความสามารถในการระบายความชื้นของถุงเท้าอีกด้วย หากต้องการให้ถุงเท้านุ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ น้ำส้มสายชูขาว คือทางเลือกที่ดีกว่า

9. เลี่ยงการใช้สารฟอกขาว (ยกเว้นถุงเท้าคอตตอนขาว)

คลอรีนฟอกขาวจะทำให้เส้นใยอ่อนแอและสีซีดจางได้ ถ้าจำเป็นต้องฟอกขาวสำหรับถุงเท้าคอตตอนสีขาวที่มีคราบฝังแน่นจริงๆ ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกขาวที่ไม่มีคลอรีน หรือน้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับผ้าจะปลอดภัยกว่า

การทำให้แห้งขั้นตอนสุดท้ายเพื่อถุงเท้าสะอาดและอยู่ทน

หลังจากซักเสร็จแล้ว ขั้นตอนการทำให้แห้งก็สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อให้ถุงเท้าของคุณแห้งสนิท ไร้กลิ่นอับ และใช้งานได้นานขึ้น

1. ตากลมธรรมชาติคือดีที่สุด

การตากถุงเท้าอย่างถูกวิธีช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาคุณภาพของถุงเท้าไว้ได้นานขึ้น การผึ่งลมเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพื่อให้ถุงเท้าคงความยืดหยุ่นและป้องกันการหดตัว โดยเฉพาะกับถุงเท้าขนสัตว์หรือใยสังเคราะห์ คุณสามารถแขวนบนราวตากผ้าหรือที่แขวนได้เลย ส่วนการตากแดดจัดนั้นแม้จะช่วยฆ่าเชื้อได้ แต่จะทำให้สีซีดและเส้นใยเสื่อมสภาพเร็ว ดังนั้นหากจำเป็นต้องตากกลางแจ้ง ควรเลือกบริเวณที่มีร่มเงาเพื่อถนอมผ้าของคุณ

2. ใช้เครื่องอบผ้าด้วยความร้อนต่ำ

หากจำเป็นต้องใช้เครื่องอบผ้า ควรตั้งค่าความร้อนต่ำที่สุดหรือเลือกโปรแกรม "อบลมเย็น" "ผ้าบอบบาง" เท่านั้น เพราะความร้อนสูงเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ถุงเท้าหดตัวและเส้นใยเสียหายได้ เมื่อถุงเท้าแห้งสนิทแล้ว ควรรีบนำออกจากเครื่องทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการสัมผัสความร้อนนานเกินไป

3. ตรวจสอบให้แห้งสนิทก่อนเก็บ

ก่อนจัดเก็บถุงเท้าต้องแห้งสนิทเท่านั้น หากเก็บถุงเท้าที่ยังชื้นอยู่กลิ่นอับและเชื้อราจะตามมาแน่นอน ต้องแน่ใจว่าแห้งสนิทจริงๆ ก่อนเก็บเข้าตู้

บทความที่คุณอาจสนใจ

แท็กที่เกี่ยวข้อง